Page 52 - คู่มือการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง(Palliative Care) แบบบูรณาการ
P. 52

แนวคิด หลักการ องค์ความรู้พื้นฐาน  51



            ปัญหาของการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองโดยชุมชนแบบบูรณาการ
                    -  ทัศนคติและกระบวนทัศน์ของผู้ให้บริการจ�านวนมาก  ยังไม่ให้ความส�าคัญกับการดูแลผู้ป่วยแบบ
            ประคับประคองแบบองค์รวมแบบบูรณาการ เช่น คิดว่าการดูแลผู้ป่วยที่ไม่มีทางรอดเป็นการเสียเวลา ควรเอาเวลาไป
            ดูแลผู้ป่วยที่มีโอกาสรอดจะดีกว่า คิดว่าการจัดการอาการปวด ไม่สุขสบายต่างๆ จ�าเป็นต้องใช้ยาเท่นั้นเช่น มอร์ฟีน

            ในการจัดการอาการปวด เป็นต้น
                    -  ขาดทีมดูแลแบบสหสาขา (แพทย์ พยาบาล แพทย์แผนไทย เภสัชกร นักโภชนาการ นักจิตวิทยา
            นักสังคมสงเคราะห์ เป็นต้น) ส่งผลให้การดูแลไม่ครอบคลุมทั้ง 4 มิติ คือ ร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ
                    -  ขาดทักษะที่จ�าเป็น เช่น ทักษะการสื่อสาร การให้ค�าปรึกษาเกี่ยวกับการตาย (dead and dying
            consulting) การดูแลเกี่ยวกับภาวะใกล้ตายและความโศกเศร้าหลังการตาย การจัดการอาการโดยไม่ใช้ยาหรือเมื่อ
            ใช้ยาแล้วไม่ได้ผล การช่วยให้ผู้ป่วยและญาติเข้าใจและยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น หรือผ่อนคลายความทุกข์จากการ
            สูญเสีย และด�าเนินชีวิตต่อไปได้ เป็นต้น รวมถึงการจัดการความพร้อมของผู้ดูแลทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
                    -  ขาด consultation service team
                    -  ขาดการเอาใจใส่ดูแลสภาพจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึกของญาติและครอบครัวผู้ป่วย ซึ่งเป็นผู้ได้รับ

            ผลกระทบจากการเจ็บป่วยเช่นกัน


            แนวทางการแก้ไขปัญหา
                    -  ปรับทัศนคติ กระบวนทัศน์ที่มีต่อการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายของผู้ดูแลและทีมสหวิชาชีพ ทั้งแพทย์
            พยาบาล แพทย์แผนไทย และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ รวมถึงญาติผู้ป่วย ให้เห็นความส�าคัญของการดูแลผู้ป่วย
            แบบประคับประคองแบบบูรณาการแบบองค์รวม เพื่อให้ทุกวินาทีที่เหลืออยู่ของผู้ป่วยเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากที่สุด
                    -  ควรมีการประเมินผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับวัฒนธรรมของการเจ็บป่วย การรักษา การเผชิญความตาย

            การบอกความจริง เพื่อให้รู้ว่าควรบอกความจริงอย่างไร และควรให้ญาติเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจเพียงใด
                    -  ควรมีระบบสนับสนุนในการช่วยดูแลสภาพจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึกของญาติหรือผู้ดูแล โดยการประเมิน
            ปัญหา ช่วยหาทางแก้ไข รวมทั้งดึงให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมดูแลผู้ป่วยที่สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
            มีส่วนร่วมในการวางแผนการดูแลอย่างเป็นระบบและชัดเจน
                    -  ก่อนให้การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย บุคลากรทางการแพทย์หรือผู้ดูแลควรตรวจสอบสภาพจิตใจของตน
            ว่าพร้อมให้บริการหรือไม่ รวมทั้งท�าความเข้าใจว่าแม้จะพยายามเต็มที่ที่จะช่วยเหลือผู้ป่วย แต่บางครั้งผลที่ได้
            อาจไม่สวยงามดั่งหวัง ก็ควรท�าใจให้ยอมรับเพื่อไม่ให้เกิดความอึดอัดคับข้องใจและเป็นทุกข์ เพราะบางครั้งอาจต้อง
            อาศัยความร่วมมือหรือเหตุปัจจัยหลายๆ อย่างเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
                    -  ผู้ให้บริการควรตระหนักเสมอว่าสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการมากที่สุด คือ การดูแลเอาใจใส่ ความเอื้ออาทร ห่วงใย

            การถ่ายเทความรู้สึกเพื่อให้เห็นว่าผู้ป่วยและเราต่างเป็นเพื่อนมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน โดยให้การดูแลในลักษณะ
            การจัดการดูแลความไม่สุขสบาย เน้นความสุขสบายทั้งด้านร่างกายและจิตใจ และดุแลเอาใจใส่อย่างต่อเนื่อง
            (cure sometime, comfort often, and care always)
                    -  บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ให้บริการควรเชื่อมั่นในความรู้สึกดีๆ ที่มีให้แก่ผู้ป่วย รวมทั้งต้องมุ่งมั่น อดทน
            และตั้งใจจริงในการที่จะดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคองให้ไปสู่ปลายทางของการตายอย่างสงบได้ในที่สุด
                    โดยสรุป การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคองโดยชุมชนแบบบูรณาการมีความจ�าเป็น
            ที่ไม่อาจจะละเลยได้ และจ�าเป็นต้องท�าควบคู่ไปกับการสร้างทีมและกระบวนการท�างานที่ดี ที่ส�าคัญคือ จะต้องท�าให้

            การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคองอย่างต่อเนื่องที่บ้านเป็นนโยบายระดับชาติ เพื่อให้ทุกโรงพยาบาล
            ออกแบบและจัดระบบรองรับให้สอดคล้องกัน การท�างานจึงจะเกิดผลอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57