Page 70 - คู่มือการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง(Palliative Care) แบบบูรณาการ
P. 70

คู่มือปฏิบัติการ  69



                    (2) การเชื่อมโยงความร่วมมือกับครอบครัว
                    รูปแบบการดูแลผู้ป่วยของอโรคยศาลวัดค�าประมงให้ความส�าคัญกับผู้ป่วยและสถาบันครอบครัว โดยก�าหนด
            ให้ต้องมีสมาชิกครอบครัวอย่างน้อย 1 คน มาช่วยดูแลผู้ป่วยตลอดระยะเวลาที่พักรักษาตัวโดยไม่ต้องกังวลเรื่อง
            ค่าใช้จ่าย การที่ผู้ป่วยต้องมาพักรักษาตัวที่วัดเป็นระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์จนกระทั่งผ่านพิธีการต้มยาหม้อแรก

            และญาติสามารถพักอยู่ดูแลผู้ป่วยดังเช่นอยู่บ้านของตนเอง ท�าให้ผู้ป่วยและญาติเกิดการปรับตัวต่อโรคและบรรยากาศ
            สิ่งแวดล้อม ได้เรียนรู้วิธีการรักษาและแนวทางการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม รวมถึงได้รับการสนับสนุนทางสังคมจาก
            ครอบครัวผู้ป่วยคนอื่นๆ ซึ่งเอื้ออ�านวยให้เกิดความอบอุ่นในจิตใจผู้ป่วยเองและสร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัวด้วย
            ผู้ป่วยรับรู้ได้ว่ามีบุคคลในครอบครัวอยู่เคียงข้างคอยเอาใจใส่ดูแลและพร้อมเผชิญหน้ากับความเจ็บป่วยไปด้วยกัน


                    บรรยากาศธรรมชาติในชุมชนอโรคยศาลวัดค�าประมง
                    ในเนื้อที่ที่พักส�าหรับผู้ป่วยและญาติมีเรือนไม้ กุฏิหลังเล็กๆ บ้านดิน และอาคารเป็นหลังๆ ตั้งเรียงราย
            แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ ให้ความร่มรื่น ผู้ป่วยและญาติสามารถพักอาศัยได้อย่างเป็นสัดส่วน ส่วนหนึ่งของบ้านพักเป็น
            อาคารปลูกสร้างโดยความประสงค์ของผู้ป่วยและญาติที่ต้องการสร้างทั้งเพื่อพักอาศัยระหว่างการรักษา หรือสร้าง

            เพื่อถวายให้วัดเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ในการพักรักษาของผู้ป่วยและญาติคนอื่นๆ ตลอดจนจิตอาสา ทั้งเป็นการ
            สร้างเหมือนอนุสรณ์แด่ผู้ป่วยด้วย บริเวณวัดมีความกว้างขวาง มีต้นไม้และสระน�้าให้ความร่มเย็น มีที่นั่งใต้ร่มไม้
            ที่ให้ความร่มรื่นและเป็นสถานที่ที่ผู้ป่วยและญาติสามารถออกมาพักผ่อนเปลี่ยนอิริยาบถ และสามารถเดินไปมาหาสู่
            กันได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ภายในบริเวณวัด นับแต่ทางเข้าวัดที่แวดล้อมด้วยผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ยังมีอ่างเก็บน�้าที่
            มีปริมาณน�้าพอเพียงไว้ส�าหรับใช้ในวัด มีหอพระ โบสถ์และที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา (ภายหลังได้มีโบสถ์คริสต์
            ตั้งอยู่ด้านในตามความประสงค์ของผู้ป่วยชาวคริสต์) โรงต้มยา โรงอบสมุนไพร สถานที่ปลูกสมุนไพร ร้านกาแฟ
            จิตอาสา สถานที่ท�านา ปลูกผักปลอดสารพิษ คอกวัวที่มีผู้ไถ่ชีวิตมาถวายวัด จึงเห็นได้ว่าสภาพบรรยากาศภายในวัด

            มีความแตกต่างจากบรรยากาศในโรงพยาบาล ดังนั้นจึงเป็นบรรยากาศที่มีความเป็นธรรมชาติและผ่อนคลาย ดังที่
            หลวงตาพระอาจารย์ปพนพัชร์ ได้เคยเรียกชุมชนอโรคยศาลว่า “มะเร็ง วิลล่าร์ สปา แอนด์ รีสอร์ต” ตามสโลแกน
            ที่วา “อยู่สบาย ตายสงบ งบไม่เสีย”


                    ชุมชนแห่งการเยียวยาและเติบโต
                    อโรคยศาลเป็นลักษณะชุมชนที่มีความโอบเอื้ออารีซึ่งกันและกัน ผู้ป่วยที่มาพักอาศัยรักษาตัวอยู่ในชุมชน
            อโรคยศาลวัดค�าประมง ต่างก็มีลักษณะร่วมกันคือ ต่างก็ได้รับความทุกข์จากโรคภัยคือมะเร็งเช่นเดียวกัน น�าไปสู่
            พื้นฐานที่เอื้อให้ผู้ป่วยมองตารู้ใจ เข้าอกเข้าใจถึงสภาพจิตใจของกันและกัน เสมือนดั่งคนที่ลงเรือล�าเดียวกันเผชิญ
            โชคชะตาเช่นเดียวกัน ดังนั้นบรรยากาศที่เกิดขึ้นในชุมชนจึงเป็นลักษณะถ้อยทีถ้อยอาศัย เอื้อเฟื้อแบ่งปัน ทั้งด้านวัตถุ

            ที่เป็นปัจจัยพื้นฐานในการยังชีวิตความเป็นอยู่ และการแลกเปลี่ยนแบ่งปันประสบการณ์แนวทางการดูแลตนเอง
            ในการรับมือกับมะเร็ง อันได้แก่ แนวทางการปฏิบัติตน วิธีการบริโภคยาและสมุนไพร อาหารที่เหมาะกับโรค และ
            ข้อพึงระวังเกี่ยวกับอาหารแสลงต่างๆ การบริหารร่างกายและจิตใจ รวมทั้งวิธีรับมือกับความเจ็บปวดวิธีต่างๆ ตลอด
            จนการสร้างขวัญก�าลังใจให้ตนเองและญาติมิตรและเพื่อนร่วมชุมชน บรรยากาศการพักเพื่อรักษาตัวจึงเป็นบรรยากาศ
            ของกัลยาณมิตรที่มีแต่การสนับสนุนและเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
                    จากการที่หลวงตา  ได้เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถร่วมโครงการเป็นจิตอาสาอย่างน้อยปีละ  1  วัน
            ได้เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนที่ประสงค์จะอุทิศก�าลังกาย ใจ สติปัญญา ความรู้ ความสามารถ และพบได้ว่าจิตอาสา

            ที่หลั่งไหลมา มาจากทุกสาขาอาชีพและภูมิหลังที่มา โดยมีแหล่งยึดเหนี่ยวใจส�าคัญคืออุดมการณ์ของหลวงตา
            ที่จะฉุดช่วยมนุษยชาติให้ได้ยกระดับจิตใจพ้นทุกข์ภัยจากโรคมะเร็ง ทั้งนี้นอกจากจิตอาสาที่มาจากชุมชนใกล้เคียง
            ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณวัด แพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ตลอดจน
            นิสิต นักศึกษา และบุคคลทุกสาขาอาชีพ หลั่งไหลมาเยี่ยมเยียนและเป็นจิตอาสาตามก�าลังความสามารถของตน
            เช่น การนวดผ่อนคลายความเครียด โยคะ หัวเราะบ�าบัด ศิลปะบ�าบัด ธรรมานามัย กิจกรรมบ�าบัด และอื่นๆ สิ่ง
            เหล่านี้จึงเป็นอีกหนึ่งอัตลักษณ์ของค�าประมง คือนอกจากสถานที่เอื้อต่อการเยียวยา (Healing Community) ยังเป็น
   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75