Page 67 - Acrobat J Trad-21-3-2566
P. 67
550 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ปีที่ 21 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2566
เมื่อประเมินอาการแสดงของโรคลมจับโปง ร้อยละ 66.4 กลุ่มควบคุมร้อยละ 65.1 ในส่วนของจุด
แห้งเข่าของกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีทางหัตถเวชกรรม กดเจ็บ กลุ่มทดลองพบจุดกดเจ็บในแต่ละจุดสัญญาณ
แผนไทย อาการแสดงแต่ละรายการของทั้ง 2 กลุ่ม ใกล้เคียงกัน คือจุดสัญญาณ 1 ร้อยละ 59.2 จุด
ไม่แตกต่างกัน ผลการตรวจพบเสียงดังในข้อเข่า สัญญาณ 2 ร้อยละ 50.5 จุดสัญญาณ 3 ร้อยละ 51.2
มากที่สุด โดยกลุ่มทดลองพบร้อยละ 89.5 และกลุ่ม ส่วนกลุ่มควบคุมพบจุดกดเจ็บสัญญาณ 1 เข่ามากที่สุด
ควบคุม ร้อยละ 86.6 รองลงมาคือตั้งขาชันเข่าชิดก้น คือ ร้อยละ 60.2 อาการแสดงที่พบน้อยที่สุดของทั้ง
ไม่ได้ กลุ่มทดลองพบร้อยละ 83.4 และกลุ่มควบคุม 2 กลุ่ม คือ ข้อเข่าผิดรูป (Table 2)
ร้อยละ 87.4 และพบอาการเข่าโก่งในกลุ่มทดลอง
Table 2 Comparison of Lom-Jub-Pong-Hang-Kao symptoms at baseline between the intervention group and control
group
Experimental group Control group
Variables (n = 277) (n = 261) p-value
n % n %
st
Found pain point on 1 knee 164 59.2 157 60.2 0.861
pressure points
nd
Found pain point on 2 knee 140 50.5 124 47.5 0.491
pressure points
Found pain point on 3 knee 142 51.3 112 42.9 0.058
rd
pressure points
Found knee bent 184 66.4 170 65.1 0.785
Found patellar tendon stiffness 102 36.8 83 31.8 0.238
Found clicking sound 248 89.5 226 86.6 0.351
Found limited knee flexion 231 83.4 228 87.4 0.223
Found knee deformity 34 12.3 32 12.3 1.000
* Fisher’s exact test
ผลการรักษาโรคลมจับโปงแห้งเข่า แบ่งออก โดยใช้สถิติ McNemar test และ Binomial test
เป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ อาการแสดงดีขึ้น (ก่อนรักษา พบ ทั้ง 2 กลุ่ม อาการแสดงมีจุดกดเจ็บบริเวณ
มีอาการแสดง หลังรักษาไม่มีอาการแสดง) อาการ สัญญาณ 1-3 เข่า เข่าโก่ง ลูกสะบ้าฝืด เขยื้อนเข่ามี
แสดงไม่เปลี่ยนแปลง (ก่อนการรักษามีอาการแสดง เสียงดัง และตั้งขาชันเข่าชิดก้นไม่ได้ หลังการรักษา
หลังการรักษามีอาการแสดง) อาการแสดงแย่ลง มีอาการแสดงดีขึ้นแตกต่างกันอย่างมีนัยส�าคัญ
(ก่อนการรักษาไม่มีอาการแสดง หลังการรักษามี (p < 0.05) ส่วนอาการแสดงข้อเข่าผิดรูป หลังการ
อาการแสดง) และไม่มีอาการแสดงตั้งแต่ก่อนรักษา รักษาไม่แตกต่าง (Table 3)
เมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนผลการรักษาภายในกลุ่ม