Page 32 - วารสารการแพทย์แผนไทย ปีที่ 20 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2565
P. 32
446 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ปีที่ 20 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2565
ว่านหางจระเข้พบอาการเวียนหัวบ้านหมุนร้อยละ 3.8 ต่าง ๆ ของโรคกรดไหลย้อนได้ โดยสารสกัดว่าน
[12]
ปวดท้องร้อยละ 3.8 โดยเกิดได้จากผลข้างเคียง หางจระเข้มีประสิทธิผลดีกว่า omeprazole อย่าง
ของสารสกัดว่านหางจระเข้โดยตรง เนื่องจากสาร มีนัยส�าคัญทางสถิติในการลดความถี่เฉลี่ยของการ
สกัดว่านหางจระเข้ประกอบด้วยสารแอนทราควิโนน เกิดอาการกลืนล�าบากและลดความรุนแรงของอาการ
(anthraquinone) ที่มีฤทธิ์เป็นยาระบาย [11,22] หรือเกิด แสบร้อนกลางอกที่ระยะเวลา 2 และ 4 สัปดาห์ แต่
อาการจากสาเหตุอื่น ๆ คาดว่าสารสกัดว่านหางจระเข้ มีรายงานอาการปวดท้องและท้องเสียหลังการใช้
เป็นยาใหม่ส�าหรับผู้เข้าร่วมวิจัยอาจท�าให้มีความกังวล สารสกัดว่านหางจระเข้ ดังนั้นจึงอาจใช้สารสกัดว่าน
ถึงผลข้างเคียงซึ่งส่งผลให้ผู้เข้าร่วมวิจัยให้ความสนใจ หางจระเข้ชนิดแคปซูลขนาด 70 มิลลิกรัมต่อวันเป็น
อาการที่ผิดปกติของร่างกายในช่วง 4 สัปดาห์ที่รับ ทางเลือกหนึ่งในการบรรเทาอาการโรคกรดไหลย้อน
[22]
ประทานยา เมื่อเปรียบเทียบกับ omeprazole ซึ่ง ได้ ในผู้ป่วยที่กังวลเรื่องผลข้างเคียงจากการรักษา
เป็นยาที่ผู้เข้าร่วมวิจัยส่วนมากเคยได้รับการรักษามา ด้วยยาแผนปัจจุบันหรือต้องการใช้สมุนไพรเป็นทาง
ก่อน เนื่องจากเป็นการรักษามาตรฐานของโรคกรด เลือกในการรักษาแต่ต้องเฝ้าระวังผลข้างเคียงที่อาจ
ไหลย้อน เกิดขึ้นได้และยังจ�าเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมถึงผลของ
[3,7]
การออกก�าลังกายวันละ 30 นาทีขึ้นไป อย่าง สารสกัดว่านหางจระเข้ในระยะยาว
น้อย 3 วัน/สัปดาห์ พบความสัมพันธ์กับอุบัติการณ์
การเกิดโรคกรดไหลย้อนลดลง 0.7 เท่า แต่จากการ ข้อเสนอแนะ
[23]
เก็บข้อมูลพบว่ากลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วย omepra- 1. การคัดกลุ่มตัวอย่างเข้าร่วมการศึกษาควร
zole ออกก�าลังกายมากกว่ากลุ่มที่รับการรักษาด้วย มีการตรวจร่างกายเพื่อแบ่งระดับความรุนแรงของ
สารสกัดว่านหางจระเข้ อย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ โรคโดยแพทย์ร่วมกับตรวจประเมินผลโดยการส่อง
(p-value 0.026) คาดว่าเกิดจากการเข้าใจค�าถามเรื่อง กระเพาะอาหาร (ถ้าเป็นไปได้) ร่วมด้วย ซึ่งจะท�าให้
การออกก�าลังกายไม่ชัดเจน ผู้ป่วยบางรายท�างานใช้ สองกลุ่มมีการกระจายผู้ป่วยตามระดับความรุนแรง
แรงงานจึงคิดว่าเป็นการออกก�าลังกาย ในขณะที่บาง ได้เท่าเทียมกันมากขึ้น หรือควรแบ่งกลุ่มผู้ป่วยโดย
รายซึ่งท�างานคล้าย ๆ กันแต่ไม่นับรวมการท�างาน ค�านึงถึงระดับความรุนแรงของอาการแสบร้อนกลาง
เป็นการออกก�าลังกาย โดยการออกก�าลังกายอาจเป็น อกตอนก่อนเริ่มทดลอง เพื่อให้ทั้ง 2 กลุ่มการทดลอง
ปัจจัยรบกวนการศึกษาประสิทธิผลของสารสกัดว่าน มีจุดเริ่มต้นเท่ากัน หรือใกล้เคียงกัน ซึ่งคาดว่าจะเห็น
หางจระเข้เปรียบเทียบกับ omeprazole จึงใช้ตัวแปร ความแตกต่างหลังได้รับการรักษาที่ชัดเจนขึ้นและ
การออกก�าลังกายมาค�านวณเพื่อปรับให้ทั้งสองกลุ่ม ท�าให้ผลการศึกษามีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
มีความเหมือนกันทางสถิติ 2. ถ้าเพิ่มจ�านวนผู้เข้าร่วมวิจัย คาดว่าจะเห็น
ความแตกต่างของความถี่และความรุนแรงของอาการ
ข้อสรุป อื่น ๆ นอกจากอาการแสบร้อนกลางอกได้ชัดเจนขึ้น
สารสกัดว่านหางจระเข้ชนิดแคปซูลมีประสิทธิผล 3. ศึกษาประสิทธิผลและผลข้างเคียงของการ
ในการลดความถี่เฉลี่ยและความรุนแรงของอาการ ใช้สารสกัดว่านหางจระเข้ในปริมาณที่เพิ่มขึ้นว่าจะ