Page 106 - Acrobat J Trad-21-3-2566
P. 106
J Thai Trad Alt Med Vol. 21 No. 3 Sep-Dec 2023 589
บทนำ�และวัตถุประสงค์ ส่วนปลาย จะเจริญได้ดีในภาวะที่มีออกซิเจนและไม่มี
เท้าที่มีเชื้อแบคทีเรียสะสมจ�านวนมากจะก่อ ออกซิเจน บางสายพันธุ์มีโคโลนีสีเหลืองน�้าตาล และ
ให้เกิดอาการเท้าลอก อับชื้น จนเกิดความร�าคาญ สามารถสร้างสารเมือก (slime) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วย
[9]
นอกจากนี้ยังส่งผลท�าให้เกิดปัญหากลิ่นเท้าได้สูงถึง ให้เชื้อเกาะติดกับผิวหนังและเยื่อบุภายในร่างกาย
90% รองลงมาคือถุงเท้าติดฝ่าเท้า 70% และอาการ เมื่อเหงื่อบริเวณเท้ารวมกับเชื้อแบคทีเรีย จะผลิต
[1]
คันพบได้ 10% ซึ่งเป็นลักษณะของโรค เท้ามีกลิ่น เอนไซม์ในการสลายตัวและเผาผลาญสารอาหารที่มี
เหม็น (pitted keratolysis) พบได้บ่อยในผู้ที่มีเหงื่อ อยู่ในเหงื่อ โดยปล่อยสารอินทรีย์ออกมาสู่ผิวหนังจึง
ออกบริเวณฝ่าเท้า เช่นกลุ่มผู้ที่มีน�้าหนักตัวมาก ผู้ป่วย ท�าให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ [8]
เบาหวาน หญิงตั้งครรภ์ และวัยรุ่นมีแนวโน้มที่จะมี วิธีการก�าจัดกลิ่นเท้านั้นมีหลายรูปแบบ ได้แก่
ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง จึงมีเหงื่อออกมากขึ้นส่งผลให้ การใช้ผลิตภัณฑ์ก�าจัดกลิ่นเท้า ซึ่งผลิตภัณฑ์ส่วน
เท้าเหม็นได้ อีกทั้งน�ามาสู่ปัญหาในการใช้ชีวิตประจ�า มากมักจะมีสารเคมีเป็นส่วนประกอบในการผลิต
วันและการเข้าสังคมเพราะท�าให้บุคลิกภาพของบุคคล และมีวิธีการใช้แตกต่างกันไป เช่น การทาผงแป้งดับ
นั้นแย่ลงและสูญเสียความมั่นใจ ปัญหาของกลิ่นเท้า กลิ่นเท้า การแช่เท้า และการฉีดพ่นสเปรย์ดับกลิ่นเท้า
นอกจาก จะส่งผลกระทบต่อตนเองโดยตรง ยังส่ง เป็นต้น พบว่าการใช้สารเคมีเหล่านี้สามารถเห็นผล
[2-3]
ผลกระทบต่อคนรอบข้างอีกด้วย โรคเท้าเหม็น ได้อย่างรวดเร็ว ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก แต่มีผลกระทบ
เป็นปัญหาที่พบได้ทั่วโลกทั้งในกลุ่มคนวัยท�างาน และ ตามมา คือ มีสารเคมีตกค้างผิวหนังบริเวณเท้า ซึ่ง
วัยเรียน โดยมีช่วงอายุเฉลี่ย 10-40 ปี พบได้สูงถึง ท�าให้บางคนเกิดอาการคัน หรืออาการแพ้บริเวณ
80-96% จากการส�ารวจปัญหากลิ่นเท้าของนักเรียน ผิวหนัง [10]
[4]
ระดับชั้นมัธยมตอนปลายโรงเรียนในเขตอ�าเภอ การใช้สมุนไพรในการแก้ไขปัญหาของกลิ่นเท้า
ไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี พบว่า มีปัญหากลิ่นเท้าถึง จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เนื่องจากสมุนไพรมีความ
ร้อยละ 52.2 ซึ่งอยู่ในวัยรุ่นตอนปลายช่วงอายุ 16-19 ปลอดภัยก่อให้เกิดอาการข้างเคียง หรือการดื้อยาน้อย
[11]
ปี เป็นวัยที่พบปริมาณเหงื่อและกลิ่นเท้ามากกว่าวัยอื่น กว่ายาปฏิชีวนะ โดยสมุนไพรที่การศึกษานี้สนใจคือ
ๆ มีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนต่าง ๆ โดย ใบพลู (Piper betle L.) จัดอยู่ในวงศ์ Piperaceae มี
เฉพาะต่อมไขมันใต้ผิวหนังและต่อมเหงื่อจะท�างาน กลิ่นหอมเฉพาะตัว ประกอบด้วยสารกลุ่ม phenolic
ได้มีประสิทธิภาพมาก ต่อมเหงื่อจะกระจายอยู่ทั่ว compound เช่น eugenol, chavicol และ isoeuge-
[5]
ร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณมือและเท้า ซึ่งเหงื่อเป็น nol ซึ่งท�าให้ชา ช่วยลดอาการคัน ขับลมในล�าไส้ แก้
[6]
[7]
[12]
ตัวการหลักที่ท�าให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี อักเสบจากแมลงสัตว์กัดต่อย และมีรายงานการ
เชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus epider- ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียสกุล Staphylococcus aureus,
midis เป็นเชื้อประจ�าถิ่นของผิวหนัง เป็นสาเหตุ Trichophyton mentagrophytes, Trichophyton
ก่อให้เกิดกลิ่นเท้าได้มากถึง 86% จัดอยู่ในกลุ่ม rubrum และ Bacillus ที่เป็นเชื้อก่อโรคทางผิวหนัง
[8]
coagulase-negative staphylococci สามารถพบ และเจริญในเท้าได้ [13-14] การศึกษานี้จึงน�าสารสกัดใบ
ได้ตามผิวหนัง โพรงจมูก รูหูและทางเดินปัสสาวะ พลูมาศึกษาฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย S. epidermi-