Page 30 - วารสารการแพทย์แผนไทยฯ ปีที่ 18 ฉบับที่ 3
P. 30

462 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก       ปีที่ 18  ฉบับที่ 3  กันยายน-ธันวาคม 2563




           = 4.4 ± 0.15%) มาทดสอบฤทธิ์ต้านการอักเสบใน   40 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามลำาดับ และสามารถลด
           อุ้งเท้าหนูที่ถูกเหนี่ยวนำาให้เกิดการอักเสบด้วยสาร   อัตราการเลียในช่วงเฟสแรกได้ 30.43 และ 37.53% ใน

           carrageenan พบว่าที่ขนาด 100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม   เฟสสองได้ 32.27 และ 60.96% ที่ขนาด 200 และ 400
                                         [32]
           สามารถลดการบวมที่อุ้งเท้าหนูได้ 73%  เมื่อนำาสาร  มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมตามลำาดับ สรุปได้ว่าสาร ger-
           สกัดเหง้าว่านมหาเมฆชั้นเอทานอลมาทำาการทดสอบ  macrone แสดงฤทธิ์ระงับการอักเสบได้ดีทั้งในการ

           ฤทธิ์ต้านการอักเสบในหลอดทดลอง (in vitro) โดย  ทดลองด้วยวิธี acetic acid-induced writhing และ
           วิธีการทดสอบ erythrocyte membrane stabili-  วิธี formalin-induced licking โดยการออกฤทธิ์ผ่าน
           zation และทำาการทดสอบในสัตว์ทดลอง (in vivo)   ทางระบบประสาทส่วนกลางและส่วนปลายได้ และมี
                                                                                        [34] ้
           โดยวิธีการเหนี่ยวนำาให้อุ้งเท้าหนูขาวเกิดการอักเสบ  ความเป็นไปได้ที่จะมีฤทธิ์ลดการอักเสบได้ดี  นำามัน
           ด้วยสาร carrageenan พบว่า สาร positive con-  จากเหง้าว่านมหาเมฆมีสาร camphor (29.39%) และ
                                                                             [35]
           trol (indomethacin) มีฤทธิ์ต้านการอักเสบด้วย  สาร germacrone (21.21%)  เมื่อทำาการศึกษาสาร
           วิธี erythrocyte membrane stabilization ดีกว่า  พฤกษเคมีจากเหง้าว่านมหาเมฆที่สกัดด้วย methyl
           สารสกัดชั้นเอทานอลของเหง้าว่านมหาเมฆ โดยมีค่า   tert-butyl ether (MTBE) และระบบเมทานอล/

           EC  เท่ากับ 26.4 ± 2.9 และ 47.8 ± 1.6 มิลลิกรัม  คลอโรฟอร์ม (methanol/chloroform) แล้วทำาการ
              50
           ต่อมิลลิลิตร ตามลำาดับ ส่วนผลการทดสอบด้วยวิธี  วิเคราะห์ด้วยเทคนิค gas chromatography–mass
           การเหนี่ยวนำาให้อุ้งเท้าบวมด้วยสาร Carrageenan   spectrometry (GC-MS) พบว่าเมื่อสกัดด้วย MTBE

           พบว่าสารสกัดชั้นเอทานอลที่ขนาด 100 มิลลิกรัม  มีสาร camphor 0.52% และสาร germacrone 0.45%
           ต่อมิลลิลิตร (8.26 ± 0.50) สามารถลดค่าพื้นที่ใต้  และเมื่อสกัดด้วยคลอโรฟอร์ม (ตัวทำาละลายไม่มีขั้ว)

           กราฟ (area under the curve หรือ AUC) ได้อย่าง  พบสาร camphor 0.67% และสาร germacrone
           มีนัยสำาคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (10.01   1.41% แต่เมื่อทำาการสกัดด้วยเมทานอล (ตัวทำาละลาย
                                                 [33]
           ± 0.33) และกลุ่ม drug control (6.50 ± 0.10)    ที่มีขั้วสูง) จะไม่พบสารดังกล่าว [36]
           ผลการทดสอบฤทธิ์ระงับปวดโดยการเหนี่ยวนำาด้วย
           กรดอะซิติกและฟอร์มาลินในหนูขาวเล็กชนิด Swiss   5. ก�รบูร
           albino พบว่าสารสกัดชั้นเมทานอลที่ขนาด 200 และ      การบูร (Camphor) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cin-

           400 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม สามารถลดอัตราการบิด  namomum camphora อยู่ในวงศ์ Lauraceae
           และงอลำาตัวได้ เท่ากับ 37.50 และ 45.31% ลดอัตรา  การบูรมีลักษณะเป็นผลึกที่แทรกอยู่ในเนื้อไม้ของ
           การเลียในเฟสแรกได้ เท่ากับ 33.27 และ 38.13% และ  ต้นการบูร ที่เกิดอยู่ทั่วไปทั้งต้น  สรรพคุณเนื้อไม้
                                                                               [37]
           ในเฟสสองได้ เท่ากับ 69.72 และ 73.71% ตามลำาดับ   เปลือกและราก นำามากลั่นจะได้ “การบูร’’ รสร้อน
           และสาร germacrone ที่แยกได้จากการทำา vacuum   ปร่าเมา ใช้ทาถูนวดแก้ปวด แก้เคล็ดบวม ขัดยอก

                                                                                 [37]
           liquid chromatography (VLC) และ open column   แพลง แก้ปวดขัดตามเส้นประสาท  การบูรที่ขนาด
           chromatography สามารถลดอัตราการบิดและงอลำา  3, 10 และ 30 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร สามารถลดการ
           ตัวได้ 22.66, 34.77 และ 51.17% ที่ขนาด 10, 20 และ   เคลื่อนที่ของเซลล์เม็ดเลือดขาว (leukocyte migra-
   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35