Page 37 - ภาพนิ่ง 1
P. 37
Journal of Thai Traditional & Alternative Medicine Vol. 10 No. 1 January-April 2012 31
เส้นที่ระบุว่ามีการติดขัด จำนวน จำนวน
ปิงคลา-กาลทารี 7 3.5
อิทา-ปิงคลา-กาลทารี-สหัสรังสี-ทวารี 7 3.5
กาลทารี-สหัสรังสี-ทวารี 4 2.0
อิทา-กาลทารี-สหัสรังสี 4 2.0
กาลทารี-สิกขิณี 4 2.0
ปิงคลา 3 1.5
เส้นประธานทั้ง 10 เส้น 3 1.5
กาลทารี-สหัสรังสี 2 1.5
ปิงคลา-กาลทารี-ทวารี 2 1.0
อิทา-สหัสรังสี 2 1.0
อิทา-ปิงคลา-สุมนา-กาลทารี-สหัสรังสี-ทวารี 2 1.0
อิทา-ทวารี 1 0.5
จันทภูสัง-รุชำ 1 0.5
อิทา-ปิงคลา-สหัสรังสี-ทวารี 1 0.5
อิทา-กาลทารี-สหัสรังสี 1 0.5
อิทา-ปิงคลา-กาลทารี-สุขุมัง 1 0.5
ปิง-สหัสรังสี-ทวารี 1 0.5
อิทา-ปิงคลา-กาล-สิกขิณี 1 0.5
อิทา-ปิงคลา-กาลทารี-สิกขิณี-สุขุมัง 1 0.5
อิทา-ปิงคลา-สิกขิณี 1 0.5
ปิงคลา-สุมนา 1 0.5
จากตาราง พบว่า เส้นประธานสิบที่มีการ วินิจฉัยโรคและอาการโดยใช้ทฤษฎีธาตุสี่เป็นส่วน
ติดขัดมากที่สุด คือ เส้นอิทา และเส้นปิงคลา น้อย แต่จะใช้การวินิจฉัยด้วยการนวดไทยและ
ร้อยละ 20 รองลงมาคือ เส้นกาลทารี ร้อยละ 19 การวินิจฉัยตามทฤษฎีเส้นประธานสิบเป็นหลัก
2.3 การวินิจฉัยตามทฤษฎีธาตุสี่ อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาการวินิจฉัย
กล่าวในทางปฏิบัติ หมอนวดไทยใช้วิธีการ อาการของผู้ป่วยด้วยทฤษฎีธาตุของหมอนวดไทย