Page 18 - แนวทางการดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะท้ายฯ

18 แนวทางการดููแลผูู้�ป่่วยมะเร็งระยะท�ายแบบป่ระคัับป่ระคัองแบบบูรณาการ

3.1 คัวามผู้าสำุกในสำิ�งที�เป่็นอยู� หมายถีึง คัวามรู�สำึกว�าชีวิตมีเป่้าหมายหรือมีจิุดูมุ�งหมาย มองเห็นว�าชีวิต
เป่็นสำิ�งที�มีคัุณคั�า พึงพอใจิในชีวิตตนเอง มีอารมณ์เบิกบาน มองโลกในแง�ดูี ไม�ท�อแท�สำิ�นหวัง พอใจิที�จิะมีสำัมพันธิภาพ
ที�ดูีกับผูู้�อื�น
3.2 คัวามผู้าสำุกในคัวามผูู้กพันยึดูมั�นกับศาสำนา หมายถีึง คัวามรู�สำึกเป่็นสำุข สำงบภายในจิิตใจิ ซิ่ึ�งเกิดูจิาก
การมีศรัทธิา คัวามเชื�อในศาสำนา มีศาสำนาเป่็นที�ยึดูเหนี�ยวทางจิิตใจิและมีคัวามสำุขในการป่ฏิิบัติตามคัำาสำอนทางศาสำนา
มีจิำานวนข�อคัำาถีามทั�งหมดู 20 ข�อ เป่็นคัำาถีามเกี�ยวกับคัวามผู้าสำุกในสำิ�งที�เป่็นอยู� 10 ข�อ และคัวามผู้าสำุกใน
คัวามผูู้กพันยึดูมั�นกับศาสำนา 10 ข�อ ลักษณะคัำาตอบเป่็นมาตราสำ�วนป่ระมาณคั�า 6 ระดูับดูังนี�
ระดูับคัะแนน 1 หมายถีึง ไม�เห็นดู�วยมาก

ระดูับคัะแนน 2 หมายถีึง ไม�เห็นดู�วยป่านกลาง
ระดูับคัะแนน 3 หมายถีึง ไม�เห็นดู�วย
ระดูับคัะแนน 4 หมายถีึง เห็นดู�วย
ระดูับคัะแนน 5 หมายถีึง เห็นดู�วยป่านกลาง
ระดูับคัะแนน 6 หมายถีึง เห็นดู�วยมาก
คัะแนนที�เป่็นไป่ไดู�ตามแบบวัดู มีคั�าระหว�าง 20-120 คัะแนน จิากข�อคัำาถีาม 20 ข�อ นำาคัะแนนที�ไดู�มา
แบ�งเป่็นระดูับ โดูยใช�เกณฑู์การแป่ลผู้ลคัะแนน ดูังนี�

คัะแนน 20 - 40 หรือ 1.00 - 2.66 คัะแนน หมายถีึง คัวามผู้าสำุกทางจิิตวิญญาณอยู�ในระดูับตำ�า
คัะแนน 41 - 99 หรือ 2.74 - 4.33 คัะแนน หมายถีึง คัวามผู้าสำุกทางจิิตวิญญาณอยู�ในระดูับป่านกลาง
คัะแนน 100 - 120 หรือ 4.34 - 6.00 คัะแนน หมายถีึง คัวามผู้าสำุกทางจิิตวิญญาณอยู�ในระดูับสำูง
หากต�องการนำาแบบป่ระเมินนี�ไป่ใช�สำามารถีติดูต�อไดู�ที� คัณะพยาบาลศาสำตร์ จิุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อาคัารบรม ราชชนนีศรีศตพรรษ ชั�น 11 ถีนนพระราม 1 แขวงวังใหม� เขตป่ทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 ติดูต�องานวิชาการ :
0-2218-1358
4. การป่ระเมินคัุณภาพชีวิต การป่ระเมินคัุณภาพชีวิต แบบป่ระเมิน T - FLIC Version 2 (Thai-Modified Function Living Index
4.
Cancer Questionnaire) สำร�างโดูยชิป่เป่อร์และคัณะ (Schipper H & Levitt M, 1985) ไดู�รับการแป่ลเป่็นภาษาไทย
โดูยสำุมิตรา ทองป่ระเสำริฐและคัณะ (Thongprasert et.al., 2005) เป่็นเคัรื�องมือที�ใช�ป่ระเมินภาวะการทำาหน�าที� มีข�อ

คัำาถีามทั�งหมดู 22 ข�อ เป่็นการป่ระเมินคัวามผู้าสำุกดู�านร�างกาย สำภาพจิิตใจิและการป่ฏิิสำัมพันธิ์ภายในคัรอบคัรัวและ
สำังคัม แบ�งคัำาตอบเป่็น 4 ระดูับ คัือ แย� (bad) ป่านกลาง (intermediate) ดูี (good) ดูีมาก (very good)

2. กำรประเมินำและกำรวินำิจฉััย์ดำ้วย์ศำสตร์กำรแพทย์์แผู้นำไทย์

1. 1. การซิ่ักป่ระวัติ ตรวจิร�างกายทั�วไป่การซิ่ักป่ระวัติ ตรวจิร�างกายทั�วไป่ การจิับชีพจิร การดูู คัลำา เคัาะ ฟ้ัง การตรวจิร�างกายทางหัตถีเวช

เพื�อให�ทราบตำาแหน�งและอาการที�ไดู�จิากการสำังเกตและการตรวจิว�าเป่็นอย�างไร
2.
2. การวิเคัราะห์ทางการแพทย์แผู้นไทย การวิเคัราะห์ทางการแพทย์แผู้นไทย โดูยตรวจิอาการต�างๆ และซิ่ักป่ระวัติตามอาการของกลไกการ
เกิดูโรคั เพื�อให�ทราบสำาเหตุและคัวามหนักเบาของโรคัหรืออาการเจิ็บป่่วย ไดู�แก�
1) อาการทางป่ิตตะ มีไข�กำาเดูา (ไข�ตัวร�อน) ป่รากฏิบ�อยคัรั�ง เป่็นๆ หายๆ เนื�อตัวรุม มีอาการสำะท�านร�อน
สำะท�านหนาวมีแผู้ลในป่ากหรือมีฝ่้าที�ลิ�นจิากไอคัวามร�อนภายใน (กำาเดูา) เนื�องจิากมีการอักเสำบและบวม ไฟ้ย�อย
อาหาร (ไฟ้ป่ริณามัคัคัี) ย�อยอาหารไม�ดูี ผู้ิวหนังเหี�ยวย�น มีไฝ่ฝ่้าป่รากฏิและมีสำีเข�ม
2) อาการทางวาตะ ท�องอืดู ท�องพอง รับป่ระทานอาหารไดู�น�อย อิ�มท�องไป่ดู�วยลม ป่วดูเสำียดูท�อง
ลมในท�องวิป่ริตแป่รป่รวน เกิดูเหน็บชาเนืองๆ (คัือ อาการตะคัริวอันเกิดูจิากกระทบคัวามเย็นที�ไม�ใช�โรคัเหน็บชา)