ยาหอมไทยยุค 4G สรรพคุณยาหอมแก้อ่อนเพลียช่วงอ่านหนังสือสอบ ลดอารมณ์หงุดหงิดช่วงเป็นประจำเดือน


 pr0658-10082559

         ยาหอมไทยในยุค 4G กรมแพทย์แผนไทยจัดงานเสวนาเกี่ยวกับยาหอม ยาหอมไทยใช้ได้กับทุกวัย มีสรรพคุณแก้อ่อนเพลียในช่วงอ่านหนังสือสอบ ทำให้ร่างกายสดชื่นเหมือนช่วงตื่นนอน ลดอารมณ์หงุดหงิดช่วงเป็นประจำเดือน

         วันที่ 8 สิงหาคม 2559 เวลา 13.30 น. กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้จัดงานเสวนาเกี่ยวกับ ยาหอมไทย ในหัวข้อ “ยาไหนไหน หรือจะสู้ยาหอมไทย” โดยมีวิทยากร 2 ท่าน คือ รศ.รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล อาจารย์ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้บรรยายในหัวข้อ ทฤษฎีการแพทย์แผนไทยที่เกี่ยวกับยาหอม และ ภก.พินิต ชินสร้อย รับผิดชอบงานแพทย์แผนไทย ร.พ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว บรรยายในหัวข้อ ประสบการณ์การใช้ยาหอม

         รศ.รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล ได้เล่าว่า หลายคนมักจะคิดว่า ยาหอม เหมาะสำหรับคนแก่เท่านั้น แต่ความจริงแล้วยาหอมเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย มีประวัติการใช้ในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน หมอไทยสมัยก่อนจะพกยาหอมติดไว้ในล่วมยา หรือ ย่ามยา เพื่อใช้กู้ชีพผู้ป่วยในยามฉุกเฉิน ไม่ว่าจะมีอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือเป็นลมหมดสติ ยาหอมจะเป็นยาชนิดแรกที่หมอไทยเลือกใช้ ก่อนที่จะทำการรักษาด้วยยาต้ม หรือตำรับยาอื่นๆ เนื่องด้วย ยาหอมจะช่วยปรับสมดุลร่างกายได้ดี เมื่อใช้ถูกกับอาการที่เป็น ก็จะสามารถรักษาโรคได้อย่างตรงจุด ในคัมภีร์แพทย์แผนไทยมีการบันทึกถึงตำรับยาหอมไว้มากกว่า 300 ตำรับ ปัจจุบันยาหอมจัดอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติมีทั้งหมด 5 ตำรับ ได้แก่ ยาหอมทิพโอสถ ยาหอมเทพจิตร ยาหอมนวโกฐ ยาหอมอินทรจักร์ และยาหอมแก้ลมวิงเวียน ยาหอมไทยโดยหลักๆ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ ยาหอมรสร้อน และยาหอมรสเย็น ยาหอมรสร้อน เช่น ยาหอมอิทรจักร์ และยาหอมนวโกฐ มีสรรพคุณช่วยในการขับลมในระบบทางเดินอาหาร ยาหอมนวโกฐ ยังช่วย แปรไข้ หมายถึง ช่วยปรับสมดุลร่างกาย ให้ฟื้นตัวจากอาการไข้ และขัดขวางอาการไข้ไม่ให้รุนแรงไปมากกว่าเดิม หากมีอาการตัวรุมๆเหมือนจะเป็นไข้ ให้ใช้ยาหอมนวโกฐชงกับน้ำร้อนกินแล้วนอนพัก พอตื่นมาตอนเช้าร่างกายก็จะสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เหมือนไม่มีอาการไข้เลย หรือในช่วงที่หายป่วยจากไข้ มักจะรู้สึกปวดเมื่อยร่างกาย ไม่ค่อย มีเรี่ยวแรง ตึงๆในหัว ก็ใช้ยาหอมนวโกฐชงกับน้ำร้อนกิน จะทำให้อาการต่างๆหายไป และร่างกายฟื้นตัวหลังการเป็นไข้ได้เร็ว ส่วนยาหอมรสเย็น ได้แก่ ยาหอมทิพย์โอสถ ยาหอมเทพจิตร และยาหอมแก้ลมวิงเวียน จะมีสรรพคุณเน้นไป ในเรื่องบำรุงหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นปกติ แก้อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด และปรับสมดุลร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นอาการหงุดหงิดช่วงเป็นประจำเดือน หรือช่วงที่ต้องทนอดหลับอดนอนต่อการอ่านหนังสือสอบดึกๆดื่นๆ ยาหอมรสเย็นนี้ ก็สามารถปรับให้ร่างกายสดชื่น หายจากอาการหงุดหงิด และอ่อนเพลียได้ดี เหมือนกับเพิ่งตื่นนอนใหม่ หากใช้ให้ถูกกับอาการที่เป็น ยาหอมก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยยืดอายุคนไทยให้ยาวนานขึ้นได้

         ภก.พินิต ชินสร้อย กล่าวว่า ยาหอมเป็นจุดเด่นของประเทศไทย ไม่มีชาติไหนๆสามารถก๊อปปี้ประเทศเราไปได้ เป็นอัตลักษณ์ทางด้านภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย จากการศึกษาวิจัยสรรพคุณของยาหอมที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ พบว่า ยาหอม สามารถกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต เพิ่มปริมาณเลือดไปเลี้ยงสมอง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ของหัวใจ ช่วยขับลมในระบบทางเดินอาหาร ยับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร และไม่มีความเป็นพิษทั้งแบบเฉียบพลัน และเรื้อรัง ซึ่งสนับสนุนสรรพคุณแก้อ่อนเพลีย ง่วงเหงาหาวนอนในช่วงอ่านหนังสือสอบได้ เป็นอย่างดี อีกทั้งสามารถนำยาหอมมาใช้รักษาโรคได้อย่างปลอดภัย ยกเว้นยาหอมที่มีรสเย็นซ่า ซึ่งจะมีส่วนประกอบของเมนทอล พิมเสน หรือการบูร จะไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นโรคไต และโรคตับ เนื่องด้วยจะเกิดการสะสมพิษในร่างกายเพิ่มขึ้น และทำให้อาการที่เป็นอยู่ทรุดลงได้ หากเลือกใช้ยาหอมให้เหมาะสมกับตัวเอง ถูกกับอาการที่เป็นอยู่ ยาหอมก็นับว่าเป็นยาวิเศษตัวหนึ่งที่มีสรรพคุณและคุณค่าไม่ล้าหลังไปตามกาลเวลา

         หากท่านใดที่สนใจข้อมูลทางด้านยาหอม สมุนไพร และการดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โทร 0 2149 5678 หรือเข้าเว็บไซต์ www.dtam.moph.go.th หรือเข้าชมงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 4 กันยายน 2559 อิมแพค เมืองทองธานี

8 สิงหาคม 2559

ภาพและข้อมูลโดย สำนักงานสื่อสารองค์กร (สสอ.)

 

Pin It
facebook