Page 45 - J Trad Med 21-1-2566
P. 45

วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก  Journal of Thai Traditional & Alternative Medicine
                      ปีที่ 21  ฉบับที่ 1  มกราคม-เมษายน  2566      Vol. 21  No. 1  January-April  2023




                                                                                 นิพนธ์ต้นฉบับ



            การศึกษาเปรียบเทียบผลการใช้สมุนไพรย่านางแดงแบบชาชงกับการอบต่อ

            ระดับโคลีนเอสเทอเรสในเกษตรกรที่สัมผัสสารกำาจัดศัตรูพืช



            อัญชนา ธิกุลวงษ์ , ดวงพร นะคาพันธุ์ชัย
                           *,‡
                                               †
             คณะบัณฑิตวิทยาลัย สาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300
            *
             วิทยาลัยสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300
            †
             ผู้รับผิดชอบบทความ:  unchana.puii@gmail.com
            ‡







                                                 บทคัดย่อ

                    ย่านางแดง เป็นสมุนไพรที่นำาไปใช้ประกอบอาหารในชีวิตประจำาวัน และใช้ประกอบการรักษาการเจ็บป่วยที่
               หลากหลายในการแพทย์แผนไทย รวมถึงมีสรรพคุณตามตำารับยาไทย ในการล้างพิษออกจากร่างกาย แก้พิษเบื่อเมา
               พิษเบื่อเมาของเห็ด ถอนพิษยาเมา แก้เมาสุรา แก้ยาเบื่อ ยาสั่งถอนพิษผิดสำาแดง ในเกษตรกรที่สัมผัสสารกำาจัดศัตรู
               พืช เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสอบถามและชุดทดสอบโคลีนเอสเทอเรส เพื่อสำารวจในผู้เข้าร่วมวิจัยที่เป็น
               ชาวนา ตำาบลสนามชัย อำาเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี มีประวัติสัมผัสสารออร์กาโนฟอสเฟตและสารคาร์บาเมต และ
               มีความเสี่ยงต่อสุขภาพในระดับมีความเสี่ยงและไม่ปลอดภัย จำานวน 92 คน โดยแบ่งผู้เข้าร่วมวิจัยที่ได้รับการคัดเลือก
               เป็น 3 กลุ่ม คือ (1) กลุ่มดื่มชาชง 31 คน  (2) กลุ่มอบสมุนไพร 31 คน และ  (3) กลุ่มควบคุม 30 คน โดยมีระยะเวลา
               ในการใช้สมุนไพรในรูปแบบอบและชงติดต่อกันเป็นเวลา 7 วันวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติทดสอบ Wilcoxon math-
               paired signed rank test และ Mann-Whitney U test ผลการศึกษาพบว่า หลังใช้สมุนไพรย่านางแดง กลุ่มชาชงมีระดับ
               เอนไซม์โคลีนเอสเทอเรสเพิ่มขึ้นมากกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติ (U = - 4.493, p < 0.001) และกลุ่มชา
               ชงยังมีระดับเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรสเพิ่มขึ้นมากกว่ากลุ่มการอบ อย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติ  (U = - 4.737, p < 0.001)
               ส่วนกลุ่มที่ใช้สมุนไพรย่านางแดงแบบชาอบมีระดับเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรสไม่แตกต่างกับกลุ่มควบคุม  สรุปได้ว่า
               ระดับเอนไซม์หลังการใช้ยาสมุนไพรกลุ่มชาชง อยู่ในระดับปลอดภัย (≥ 87.5 u/ml.) และระดับปกติ (≥ 100 u/ml.)
               ดีขึ้นร้อยละ 77.4
                    คำ�สำ�คัญ:  ย่านางแดง, ชาชง, การอบสมุนไพร, โคลีนเอสเทอเรส, สารกำาจัดศัตรูพืช












            Received date 12/09/22; Revised date 24/01/23; Accepted date 28/03/23


                                                     25
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50