Page 38 - วารสารกรมการแพทย์แผนไทยฯ ปีที่ 18 ฉบับที่ 2
P. 38

260 วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก     ปีที่ 18  ฉบับที่ 2  พฤษภาคม-สิงหาคม 2563





                การศึกษาฤทธิ์ทางชีวภาพของสารสกัดหญ้าตานคอม้าตามการนำามาใช้ประโยชน์

                ทางการแพทย์พื้นบ้าน

                วุฒิชัย วิสุทธิพรต *,†,¶ , วนัชวรรณ วิสุทธิพรต , นิพนธ์ แก้วต่าย , เผด็จ ศรีนวลแก้ว §
                                                 ‡
                                                               *
                ภาควิชาการแพทย์แผนไทย วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย 65130
                *
                หน่วยวิจัยสมุนไพร วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย 65130
                †
                สถานวิจัยเครื่องสำาอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย 65000
                ‡
                สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี บ้านควนปอม อำาเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง ประเทศไทย 93170
                §
                ผู้รับผิดชอบบทความ: wudtichai@scphpl.ac.th
                ¶
                                                  บทคัดย่อ

                    หญ้าตานคอม้า [Tadehagi triquetrum (L.) H. Ohashi] เป็นพืชสมุนไพรที่ใช้กันมาแต่โบราณเพื่อเป็นสารฆ่า
                                                   ้
                เชื้อจุลชีพซึ่งทำาให้สามารถยืดอายุของผลิตภัณฑ์ที่มีนำาเป็นองค์ประกอบหลักได้ นอกจากนี้การแพทย์พื้นบ้านแนะนำา
                ให้ใช้ยาต้มจากใบหญ้าตานคอม้าเพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพทางเพศสำาหรับเพศชาย และตามการ
                ใช้ประโยชน์ที่แพทย์พื้นบ้านได้แนะนำาไว้ การศึกษานี้มุ่งที่จะตรวจวัดฤทธิ์ทางชีวภาพของสารสกัดหญ้าตานคอม้า
                ที่ได้จากการสกัดด้วยตัวทำาละลายที่มีขั้วแตกต่างกัน สารสกัดกลุ่มที่มีขั้วและไม่มีขั้วที่ได้ถูกนำาไปทดสอบฤทธิ์ทาง
                ชีวภาพ ซึ่งได้แก่ ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยการประเมินด้วยวิธี DPPH และ ABTS รวมถึงการตรวจวัดฤทธิ์ในการ
                ต้านการทำางานของเอ็นไซม์ฟอสโฟไดเอสเทอเรส-5 (PDE-5) ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับสมรรถภาพทางเพศและทาง
                กายของผู้ชาย สำาหรับฤทธิ์ในการต้านเชื้อจุลชีพของสารสกัดจะถูกประเมินโดยวิธีดิสค์ดิฟฟิวชั่น และค่าความเข้ม
                ข้นที่น้อยที่สุดในการยับยั้งเชื้อจุลชีพ (MIC) จากผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าสารสกัดที่เตรียมจากแอลกอฮอล์และ
                 ้
                                                                ้
                นำาแสดงฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ต้านจุลชีพที่สูง โดยสารสกัดนำาแสดงฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด
                (IC50 = 12.45 ± 0.14 µg/mL) ส่วนการเจริญเติบโตของเชื้อ S. aureus, E. coli และ Ps. Aeruginosa สามารถถูกยับยั้ง
                ด้วยสารสกัดกลุ่มมีขั้ว ในขณะที่สารสกัดกลุ่มไม่มีขั้วสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราได้ดี ฤทธิ์ในการยับยั้ง
                                                                                         ้
                การทำางานของเอ็นไซม์ PDE-5 แสดงผลการยับยั้งที่ 60.45% ± 0.14 ที่ความเข้มข้น 50 µg/mL ของสารสกัดนำา จาก
                การศึกษาแสดงให้เห็นว่าหญ้าตานคอม้ามีฤทธิ์ทางชีวภาพเบื้องต้นตามคำาแนะนำาของแพทย์พื้นบ้านที่ได้ระบุไว้ แต่
                อย่างไรก็ตามควรมีการศึกษาในห้องปฏิบัติการรวมถึงการศึกษาทางคลินิกอื่น ๆ เพิ่มเติม

                    คำาสำาคัญ:  ฤทธิ์ต้านเชื้อจุลชีพ, ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ, ฤทธิ์ต้านเอ็นไซม์ PDE-5, หญ้าตานคอม้า





                  Introduction & Objectives              cold.  Ayurveda uses the leaf of T. triquetrum
                                                             [5,7]
                 Tadehagi triquetrum (L.) H. Ohashi has   for patients who have intestinal tract disorders
             been used as a medicinal plant in several coun-  such as dysentery, bloated stomach, and para-
             tries in Asia.  Chinese medicine has used   sites. In Thailand, T. triquetrum is called Ya-
                         [1-4]
             this plant as an anti-viral and anti-inflamma-  tarn-kor-ma or Kaow-moa-nok. Folk medicine
             tory agent.  It is often incorporated into drug   practitioners in the northern region of Thailand
                      [5-6]
             recipes for treating sore throat and common   use T. triquetrum to support men’s physical
   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43