แถลงข่าว"ล้อมคอกปัญหาการใช้หญ้ารีแพร์" หลังพบปั่นราคาในตลาดต้นไม้
อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ต่อยอดหญ้าฮิตประจำงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 11 เข้าสู่ระบบการวิจัย หวังสู่ตลาดโลกในรูปพร้อมใช้ และส่งเสริมการพึ่งตนเองของประชาชน
ดร.นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมด้วย ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เภสัชกรเชียวชาญโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และคณะ ร่วมแถลงข่าวการต่อยอดหญ้ารีแพร์เข้าสู่กระบวนการวิจัยว่า การจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 11 ปีนี้ ต้องขอขอบคุณทีมงานโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ที่นำสมุนไพรเด่นจำนวนมากที่ใช้ดูแลสุขภาพในกลุ่มสตรีมาเผยแพร่ในงานนี้ จากการประเมินตลอดการจัดงานที่ผ่านมา 3 วัน พบว่าสมุนไพรยอดฮิตติดตลาดในปีนี้คือ หญ้ารีแพร์ ที่มีชื่อชื่อวิทยาศาสตร์Centotheca lappacea (L.) Desv วงศ์ ; Poaceae (หรือ Gramineae) ชื่อสามัญ ; Barbed Grass เป็นพืชตระกูลไผ่และหญ้า มีข้อและปล้อง ลำต้นกลวง ตัวอย่างพืชในวงศ์นี้ เช่น ไผ่ หญ้าคา ข้าว ข้าวโพด อ้อย เดือย ตะไคร้หอม หญ้าแฝก ด้วยสรรพคุณที่น่าสนใจจากการสั่งสมข้อมูลและประสบการณ์ของผู้ใช้ทั่วทุกภาค พบว่า ช่วยให้ผิวแข็งแรง ช่วยเอ็นข้อต่างๆกระชับ ฆ่าเชื้อโรค ช่วยแผลปิดสนิทเร็วขึ้น ช่วยขับน้ำคาวปลา กระชับช่องคลอด ช่วยมดลูกเข้าอู่เร็ว รักษาการอักเสบของแผลฝีเย็บหลังคลอด รักษาแผลริดสีดวงทวาร ภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกใต้ ใช้เป็นยาแก้ไข้ แก้ปวด ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย โดยใช้หญ้ารีแพร์ หญ้านกขาว หญ้าสนกระจับมาผสมกัน ตำให้ละเอียด ห่อด้วยผ้า คั้นเอาน้ำผสมกับน้ำมะพร้าวดื่ม นำกากที่เหลือพอกส่วนที่ปวด แสดงให้เห็นว่ามีการใช้อย่างแพร่หลายในระดับภูมิภาค เพียงแต่ยังไม่มีการเผยแพร่ถึงสรรพคุณด้านอื่นร่วมด้วย นี่คือของมรดกที่ธรรมชาติให้คนทั้งโลกได้ใช้ กรมจึงเตรียมพัฒนาต่อยอด เพื่อให้สะดวกต่อการใช้ เหมาะกับยุคสมัยปัจจุบัน ด้วยการศึกษาหาข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์สนับสนุน และเตรียมแผนต่อยอดส่งเสริมด้านธุรกิจแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ
ในเบื้องต้นทีมงานด้านวิชาการของกรมโดย ภญ.ดร.สุภัททรา รังสิมาการ และคณะ ได้ทำการวิเคราะห์หาองค์ประกอบทางเคมี(เบื้องต้น)ของหญ้ารีแพร์พบว่าประกอบด้วยPhytosterolsมีรายงานฤทธิ์ต้านการอักเสบ(anti-inflammation) และมีฤทธิ์ลด cholesterol ในสัตว์ทดลอง มีสารกลุ่ม Phenolic compounds หรืออาจเรียกว่ากลุ่ม Polyphenols ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย และต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant activity) ชะลอการเสื่อมของเซลล์ รวมถึงมีสารกลุ่มอื่น ๆ ซึ่งผลการตรวจวิเคราะห์ในเชิงลึกจะได้ดำเนินการต่อไป และจะร่วมกับผู้เชี่ยวชาญพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ ล่าสุดได้มีการผลิตเป็นชาชง เป็นต้น
สำหรับในงานนี้เราได้หารือผู้ประกอบการในเรื่องของราคาที่จำหน่าย ไม่ควรเกินกระถุงละ 50 บาท ผู้ขายต้องให้ความรู้ถึงวิธีการปลูกและการใช้ประโยชน์ การขยายพันธ์ ด้วยการเพาะเมล็ด หรือปลูกจากต้นพันธุ์ ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ทีมงานโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
