สธ. หนุนคนไทยใช้ท่า “ฤาษีดัดตน 15 ท่า” ออกกำลังกาย สรรพคุณเพียบ ต่อต้านโรค มีอายุยืน
กระทรวงสาธารณสุข จัดกิจกรรมออกกำลังกายด้วยท่าฤาษีดัดตนพร้อมกันมากที่สุดในโลก 2,556 คน เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้นำมาประยุกต์ใช้เป็นท่ากายบริหารขั้นพื้นฐานได้ 15 ท่าจากทั้งหมดที่มี 80 ท่า และส่งเสริมใช้ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ ชี้ผลดีของท่าฤาษีดัดตน ได้ทั้งกายและจิต ช่วยเพิ่มสมาธิ บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า กระตุ้นการไหลเวียนเลือดในร่างกาย อายุยืนยาว
วันนี้ (25 เมษายน 2556) ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สมชัย นิจพานิช อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดกิจกรรมการออกกำลังกายด้วยท่าฤาษีดัดตน ในงานสืบสานตำนานภูมิปัญญาไทย มรดกไทย สู่สุขภาพไทย และสุขภาพโลก ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-28 เมษายน 2556 ที่วัดโพธิ์ โดยรวมพลคนรักสุขภาพจำนวน 2,556 คน พร้อมวิทยากรผู้นำอีก 100 คน ซึ่งมากที่สุดในโลก ทั้งนี้เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมี พระชนมพรรษาครบ 85 พรรษา ในปี 2556 ใช้เวลา 30 นาที
นายแพทย์ชลน่านให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายส่งเสริมให้คนไทยทุกคนออกกำลังกายเพื่อการสร้างสุขภาพดี ลดปัญหาการเจ็บป่วย และสนับสนุนให้มีการนำภูมิปัญญาไทยมาใช้ ซึ่งจากการวิเคราะห์ ภูมิปัญญาแห่งการรักษาตนเองของไทยในอดีตที่มีจารึกในคัมภีร์ พบว่ามีการใช้ท่าฤาษีดัดตนช่วยในการบำบัดอาการต่างๆ มีทั้งหมด 80 ท่า มีทั้งท่ายืน ท่านั่ง และนอน และมีบันทึกท่าต่างๆ อยู่ที่วัดโพธิ์มากถึง 80 ท่าที่เป็นที่รู้จักกันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ได้มอบนโยบายให้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ทำการวิจัยร่วมกับทีมแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อคัดเลือกนำมาประยุกต์ใช้ในระบบริการสุขภาพ โดยเฉพาะด้านการส่งเสริมสุขภาพตามแบบวิถีไทย และสามารถประยุกต์ใช้เป็นท่าพื้นฐานจำนวน 15 ท่า ที่พบว่ามีผลดีต่อสุขภาพครอบคลุมอวัยวะทุกส่วน ช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือดได้ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ซึ่งมีประโยชน์ในการปรับสมดุลโครงสร้างร่างกายเกือบทุกส่วน มีทั้งท่ายืน ท่านอน ท่านั่ง และปัจจุบันได้เผยแพร่ให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนนำไปเป็นท่าการออกกำลังกายสำหรับประชาชนทั่วไป โดยได้กำหนดให้โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง มีการจัดกิจกรรมการออกกำลังกายด้วยท่าฤาษีดัดตนอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งด้วย เพื่อให้ประชาชนเลือกใช้ได้อย่างหลากหลาย และเหมาะสมกับสภาพร่างกายตนเองที่สุด
ทางด้านนายแพทย์สมชัย นิจพานิช อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ท่าฤาษีดัดตน เป็นการบริหารร่างกายโดยการเคลื่อนไหวอย่างช้า ควบคู่กับการหายใจเข้า ออก อย่างช้า ๆ และมีสติ เน้นการฝึกลมหายใจและใช้สมาธิร่วมด้วย จัดเป็นทั้งการบริหารร่างกายและบริหารจิตควบคู่กัน มีความปลอดภัยกับผู้ที่จะใช้ออกกำลังกายโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ประโยชน์ของการบริหารร่างกายด้วยท่าฤาษีดัดตน ทำให้ร่างกายตื่นตัว แข็งแรง ระบบการไหลเวียนเลือดในร่างกายดีขึ้น เป็นการต่อต้านโรค บำรุงรักษาสุขภาพให้มีอายุยืนยาว ช่วยสุขภาพจิตดี และยังมีสรรพคุณในการรักษาโรคเบื้องต้นได้
นายแพทย์สมชัยกล่าวต่อว่า จากการศึกษาท่าฤาษีดัดตนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ถึงปัจจุบันยังไม่พบข้อเสียหรืออันตรายจากการใช้ท่าฤาษีดัดตน โดยผลวิจัยของสถาบันวิจัยการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย ในระยะ ที่ 1 พบว่าท่าฤาษีดัดตน เหมาะสมในการใช้บริหารร่างกาย ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ และสะบัก โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคออฟฟิศซินโดรม หรืออาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการทำงาน ท่าที่ได้ผลอาทิ ท่าแก้ลมปวดศีรษะ ท่าแก้เกียจ ท่าแก้ขัดแขน ท่าแก้ปวดท้อง ท่าแก้ไหล่ ขา ท่าแก้ลมอันรัดทั้งตัว เป็นต้น ซึ่งจะมีอยู่ในท่าฤาษีดัดตน 15 ท่าของกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
สำหรับท่ากายบริหารฤาษีดัดตนที่ใช้ในวันนี้คัดเลือกเป็นตัวอย่าง เป็นท่ายืน 7 ท่า ได้แก่ 1.ท่าแก้ลมข้อมือ แก้ลมในลำลึงค์ เป็นการบริหารข้อมือ และเพิ่มการขมิบก้น บริหารฝีเย็บ 2.ท่าแก้ปวดท้องปวดข้อเท้า แก้ลมปวดศีรษะ ป้องกันไหล่ติด 3.ท่าแก้ลมเจ็บศีรษะ และตามัว และแก้เกียจ เป็นการบริหารส่วนแขน 4.ท่าดำรงกายอายุยืน เป็นการบริหารส่วนขา 5.ท่าบริหารเอว อก ขา ไหล่ เลือดไหลเวียนดี 6.ท่าแก้ตะคริวมือเท้า เป็นการทดสอบการทรงตัว และบริหารส่วนขา 7.ท่าแก้สะโพกสลักเพชร และแก้ไหล่สะโพกขัด เป็นท่าใช้บริหารไหล่ สะโพก และหลัง