Page 2 - จุลสารกรมแพทย์แผนไทยฯ ปีที่2 ฉบับที่ 14 ประจำเดือนธันวาคม 2562
P. 2

“การนวดไทย....สู่มรดกโลก”






                                                                                     กฤษณะ คตสุข , ธนดล มางาม




                 การนวดไทย เป็นองค์ความรู้ที่เกิดจากการสั่งสมประสบการณ์การดูแลสุขภาพของคนในครอบครัวและชุมชน การถ่ายทอด
      องค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งมีระยะเวลานานจนกลายเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาติไทยและมีการใช้มาอย่างยาวนานกว่า 700 ปี ผ่านการ
      ลองผิดลองถูกและตกผลึกเป็นหลักการจนมีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยมีการใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการดูแลสุขภาพตามวัฒนธรรมของสังคมไทย
      ที่ใช้มือหรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกายในการปรับพลังและโครงสร้างของร่างกาย เพื่อบำบัดความเจ็บป่วยที่เกิดจากลมในเส้นติดขัดและ
      ทำให้ธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ให้เป็นปกติ ศาสตร์ของการนวดไทยนั้นถือว่าร่างกายมนุษย์มีเส้นเป็นเครือข่าย
      ร่างแหเชื่อมโยงส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน มีจำนวน 72,000 เส้น โดยมีเส้นหลักอยู่ 10 เส้น เรียกว่า เส้นประธานสิบ ซึ่งใช้เป็นหลักในการ
      ตรวจวินิจฉัยและบำบัด โดยใช้การกด คลึง บีบ จับ ทุบ สับ ดัด ดึง ด้วยมือหรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ศอก เข่า เท้า ใช้อุปกรณ์การนวด
      ตนเองที่ประดิษฐ์ขึ้น ใช้ลูกประคบสมุนไพร เพื่อลดการอักเสบและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ รวมทั้งใช้จิตวิทยาในการปลุกปลอบให้กำลังใจ
      ด้วยความกรุณา

















                       การนวดแบบราชสำนัก                                      การนวดแบบเชลยศักดิ์
             (ที่มาของภาพ : https://m.se-ed.com/Product/Productlmage/   ( ที่มาของภาพ : https:// sites.google.com/site/khorngkarwdphaenthiy/)
                           9786169157960#1)

                 การนวดไทยแบ่งเป็น 2 แบบคือ การนวดแบบราชสำนัก และการนวดแบบเชลยศักดิ์ (แบบทั่วไป) การนวดแบบราชสำนัก
                                                                                ่
      เป็นการนวดเพื่อถวายกษัตริย์และเจ้านายชั้นสูงของราชสำนัก ผู้นวดจะต้องเดินเข่าเข้าหาผู้ปวยที่นอนอยู่บนพื้น แล้วจึงนั่งพับเพียบและ
                                                            ่
      คารวะขออภัยผู้ป่วย ผู้นวดต้องมีกิริยามารยาทเรียบร้อย ไม่หายใจรดผู้ปวย ไม่เงยหน้า ใช้เฉพาะมือ คือนิ้วหัวแม่มือ ปลายนิ้วและอุ้งมือในการ
      นวดเท่านั้น แขนต้องเหยียดตรง โดยเริ่มนวดตั้งแต่ใต้เข่า ลงมาข้อเท้าหรือจากต้นขาลงมาถึงข้อเท้า ผู้นวดเน้นให้เกิดผลต่ออวัยวะและ
      เนื้อเยื่อ โดยยึดหลักกายวิภาค การนวดแบบเชลยศักดิ์หรือการนวดแบบทั่วไป เป็นการนวดแบบสามัญชน มีการสืบทอดฝึกฝนแบบแผน

      การนวดตามวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งเหมาะสำหรับชาวบ้านนวดกันเอง ใช้สองมือและอวัยวะส่วนอื่นโดยไม่ต้องใช้ยา เป็นการนวดบริเวณ
      กล้ามเนื้อและข้อศอกต่าง ๆ ของร่างกาย รู้จักกันทั่วไปว่า “จับเส้น” เพื่อให้เลือดลมเดินได้สะดวกขึ้น ซึ่งตรงกับแพทย์แผนปัจจุบันคือ
      การนวดเพื่อเพิ่มหรือส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ผู้นวดมีความเป็นกันเองกับผู้ป่วย โดยเริ่มนวดที่ฝ่าเท้า ใช้อวัยวะทุก
      ส่วนเช่น มือ เข่า ศอก ในการนวด โดยเน้นผลที่เกิดจากการกดและนวดคลึงตามจุดต่าง ๆ ประโยชน์ของการนวด คือ เพื่อลดการ
      เกร็งตัวของกล้ามเนื้อ เพิ่มระบบไหลเวียนโลหิต เพิ่มประสิทธิภาพของระบบทางเดินหายใจ ฟื้นฟูสภาพของระบบกล้ามเนื้อและระบบ
      ไหลเวียนโลหิต
                      การเสนอ “นวดไทย” สู่มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติต่อองค์การยูเนสโก โดยเริ่มดำเนินการในปี พ.ศ. 2554
      กระทรวงวัฒนธรรมโดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ขึ้นทะเบียน “นวดไทย” เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติไทย  ต่อมาปี พ.ศ. 2559
      คณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอให้ขึ้นทะเบียนนวดไทยในฐานะรายการ
      ตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติต่อองค์การยูเนสโก และ ปี พ.ศ. 2560 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กระทรวง
      วัฒนธรรมนำเสนอนวดไทย ขึ้นบัญชีรายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติต่อองค์การยูเนสโก จนกระทั่ง
      ปี พ.ศ. 2562 การนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาจากคณะกรรมการว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 14
      ระหว่างวันที่ 9 -14 ธันวาคม 2562  ณ เมืองโบโกตา สาธารณรัฐโคลอมเบีย

            “การนวดไทยเป็นอัตลักษณ์ของความเป็นไทย มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย

         โดยการส่งเสริมภูมิปัญญาการนวดไทย ให้คงอยู่และเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของโลกสืบไป”
   1   2   3   4