Page 1 - จุลสารกรมแพทย์แผนไทยฯ ปีที่3 ฉบับที่ 2 ประจำเดือน กุมภาพันธ์ 2563
P. 1

กรมการแพทย์แผนไทยและ




                                                            การแพทย์ทางเลือก




                                         Department of Thai Traditional and Alternative Medicine


                                           ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 ประจำเดือน กุมภาพันธ์ 2563  DTAM  E - newsletters






               สวัสดีเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก เมื่อพูดถึงความรักหลายคนนึกถึงดอกกุหลาบ
        ซึ่งใช้เป็นสื่อแทนความรักที่เป็นสากล ดอกที่มีกลิ่นหอมและหลากสีสันแทนความหมายที่
        หลากหลายรูปแบบแห่งรักนั่นเอง นอกจากคุณค่าทางใจแล้ว กุหลาบสามารถนำมาสกัดน้ำมัน
        หอมระเหยสำหรับการแต่งกลิ่นในเครื่องสำอางและใช้เพื่อการบำบัดโรคโดยใช้กลิ่นหอม

        (Aromatherapy; สุคนธบำบัด) อีกด้วย โดยน้ำมันหอมระเหยจากกุหลาบผลิตจากกุหลาบมอญ
        (Rosa damascene Mill.) วงศ์ Rosaceae  มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย คลายความตึงเครียด
        ของร่างกาย คลายกล้ามเนื้อเรียบ และคลายกังวล ทำให้รู้สึกสบาย และนอนหลับง่าย
        นอกจากนี้ยังช่วยระบาย คลายปวด และช่วยขับระดู สำหรับยาไทยมีการใช้ประโยชน์

        จากน้ำมันดอกกุหลาบมาช้านาน โดยนำน้ำมันดอกกุหลาบมาละลายกับน้ำต้มสุก
        ทำเป็นน้ำกระสายยาในตำรับยาแก้ไข้ตัวร้อน อ่อนเพลีย แก้กระหาย และบำรุงกำลัง
        ปัจจุบันประเทศไทยนำเข้าน้ำมันหอมระเหยกุหลาบมาจากประเทศอิหร่านหรือซีเรีย

        เรียกว่า “น้ำดอกไม้เทศ”






















               นอกจากการใช้ประโยชน์จากน้ำมันหอมระเหยแล้ว  ดอกกุหลาบยังนิยมนำมาทำชากุหลาบ  ขนมสอดไส้กุหลาบ
        และใช้ทำบุหงารำไป การแพทย์แผนไทยเชื่อว่ากลิ่นหอมจากกุหลาบช่วยบำรุงหัวใจ สอดคล้องกับการแพทย์แผนจีนที่ใช้กุหลาบแห้งช่วย

        เพิ่มพลังชี่และบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ส่วนการแพทย์อายุรเวทใช้ชากุหลาบเพื่อช่วยระบายในผู้ที่ขับถ่ายลำบาก








                                                   กุหลาบ ดอกไม้ที่ไม่ได้มีเพียงความสวยงาม แต่ยังทรงคุณค่า


                                                     ด้วยกลิ่นอันหอมหวน และให้ประโยชน์ทางยาที่หลากหลาย
   1   2   3   4